การประชุมรัฐมนตรีทบวงการพลังงานระหว่างประเทศประจำปี พ.ศ.2567 (the IEA Ministerial Meeting 2024)
     เมื่อวานนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2567) นายสมภพ พัฒนอริยางกูล รองปลัดกระทรวงพลังงาน ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนกระทรวงพลังงานเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีทบวงการพลังงานระหว่างประเทศประจำปี พ.ศ. 2567 (the IEA Ministerial Meeting 2024) ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พร้อมด้วยผู้แทนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
     ซึ่ง IEA เป็นองค์กรชั้นนำด้านพลังงานระหว่างประเทศที่ทำหน้าที่ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศผู้นำเข้าพลังงาน รวมถึง ส่งเสริมการพัฒนานโยบาย เทคโนโลยี/นวัตกรรมและความร่วมมือด้านพลังงานในระดับโลก โดยประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นประเทศพันธมิตรกับ IEA ตั้งแต่ปี 2558
     การประชุมดังกล่าวเป็นเวทีหารือระดับนโยบายที่รัฐมนตรีพลังงานจากประเทศสมาชิกและพันธมิตร IEA และผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงพลังงานของประเทศสมาชิก IEA และประเทศพันธมิตรเข้าร่วมกว่า 41 ประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาภาคพลังงานในระดับโลก และแนวทางการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพลังงานยุคใหม่ รวมถึงมีผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชน องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศด้านพลังงาน และผู้แทนระดับสูงจากองค์กรระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น สหภาพยุโรป ทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและมุมมองในหลากหลายมิติเกี่ยวกับการพัฒนาภาคพลังงานให้มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกไปสู่พลังงานสะอาดอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
     ที่ประชุมได้มีการเน้นย้ำถึงปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาภาคพลังงานที่เข้าถึงได้ มั่นคง และยั่งยืนของโลก โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนในภาคพลังงานสะอาดและการประหยัดพลังงานของภาครัฐ การจัดหาเงินทุนและการส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด การส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานและการเข้าถึงพลังงานอย่างทั่วถึง การสร้างงานและทักษะของบุคลากรที่สำคัญต่อการพัฒนาภาคพลังงานสะอาดของโลก เป็นต้น
     ในการนี้ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวสุนทรพจน์และแสดงวิสัยทัศน์ในช่วงต่างๆ ของการประชุมฯ เพื่อแสดงจุดยืนของประเทศไทยในการเข้าร่วมกับประชาคมโลกในการผลักดันนโยบายภาครัฐที่นำไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด รวมถึง เน้นย้ำบทบาทของไทยในการสนับสนุนกิจกรรมความร่วมมือภายใต้กรอบของ IEA ในฐานะประเทศพันธมิตร นอกจากนี้ ได้มีการหารือทวิภาคีกับ Ms. Mary Bruce Warlick รองผู้อำนวยการทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันความร่วมมือกับ IEA ที่เป็นไปได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดโครงการพัฒนาการบูรณาการพลังงานสะอาดเข้าสู่ระบบสายส่งไฟฟ้า รวมถึง การพัฒนาระบบการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลด้านพลังงานและการอนุรักษ์พลังงานของไทย ตลอดจนมีการลงนามในแผนงานความร่วมมือระหว่างกระทรวงพลังงานกับ IEA ในปี 2024-2025 เพื่อเป็นกรอบการทำงานร่วมกันสำหรับการพัฒนาโครงการ ข้อริเริ่ม และกิจกรรมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคพลังงานและการมีส่วนร่วมของไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต